การใช้งาน PHP อย่างมีประสิทธิภาพในสภาพแวดล้อมโลคัลของ ServBay

PHP (Hypertext Preprocessor) คือภาษา script แบบโอเพ่นซอร์สที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการพัฒนาเว็บไซต์ และสามารถฝังเข้าไปใน HTML ได้โดยตรง ด้วยไวยากรณ์ที่ยืดหยุ่น (ได้รับอิทธิพลจาก C, Java และ Perl) ทำให้ PHP เรียนรู้ง่าย ใช้งานสะดวก และรองรับการเชื่อมต่อกับระบบฐานข้อมูลหลากหลายชนิดและบริการต่าง ๆ ได้อย่างไร้รอยต่อ

ServBay เป็นสภาพแวดล้อมพัฒนาเว็บแบบโลคัลที่ทรงพลังสำหรับ macOS ช่วยให้นักพัฒนาสามารถติดตั้ง ตั้งค่า และบริหารจัดการ PHP พร้อมส่วนประกอบต่าง ๆ ได้อย่างสะดวกสบาย เพิ่มประสิทธิภาพในการพัฒนาและทดสอบแอปพลิเคชัน PHP บนเครื่องคุณ

การรองรับ PHP บน ServBay

ServBay สนับสนุน PHP หลากหลายเวอร์ชัน ตั้งแต่เวอร์ชันเก่าแบบเข้ากันได้ ไปจนถึงเวอร์ชันล่าสุด เพื่อให้คุณเลือกสภาพแวดล้อม PHP ที่เหมาะสมกับโปรเจกต์ของคุณมากที่สุด รองรับ PHP เวอร์ชันต่อไปนี้:

• PHP 5.6
• PHP 7.0
• PHP 7.1
• PHP 7.2
• PHP 7.3
• PHP 7.4
• PHP 8.0
• PHP 8.1
• PHP 8.2
• PHP 8.3
• PHP 8.4

TIP

ServBay ได้ มาพร้อม Composer ในตัวแล้ว ไม่จำเป็นต้องติดตั้งแยกต่างหาก

วิธีติดตั้ง

คุณสามารถติดตั้งและจัดการแพ็กเกจ PHP ได้อย่างง่ายดายผ่านแผงควบคุม GUI ของ ServBay ขั้นตอนการติดตั้ง PHP ผ่าน GUI มีดังนี้:

1. เปิดแผงควบคุม GUI ของ ServBay
2. ไปที่เมนู แพ็กเกจ - PHP ที่แถบด้านข้างซ้าย
3. เลือกเวอร์ชัน PHP ที่ต้องการจากรายการ
4. คลิกปุ่ม ติดตั้ง สีเขียวข้างเวอร์ชันนั้น แล้วรอให้การติดตั้งเสร็จสมบูรณ์

การจัดการและสลับเวอร์ชัน PHP

หนึ่งในจุดเด่นของ ServBay คือสามารถสลับใช้งานระหว่าง PHP หลายเวอร์ชันได้อย่างรวดเร็ว หากติดตั้ง PHP หลายเวอร์ชันไว้ คุณสามารถไปที่ แพ็กเกจ - PHP บน GUI แล้วคลิกปุ่มด้านขวาตรงเวอร์ชันที่ต้องการตั้งให้เป็นเวอร์ชันใช้งานปัจจุบัน ได้ทันที

เมื่อกำหนดเวอร์ชันให้เป็น Active แล้ว ServBay จะใช้ PHP เวอร์ชันนั้นในการรันเว็บแอปพลิเคชันของคุณ

โมดูลที่มีมาให้ในตัว

ServBay จัดเตรียมโมดูลเสริมยอดนิยมจำนวนมากสำหรับ PHP เพื่อให้คุณขยายความสามารถของ PHP ได้ตามต้องการ หลายโมดูลหลักจะถูกติดตั้งและเปิดใช้งานให้อัตโนมัติ ไม่ต้องตั้งค่าอะไรเพิ่มเติม ส่วนโมดูลอื่น ๆ สามารถเลือกเปิดใช้งานตามความจำเป็น

ตัวอย่างโมดูล PHP ที่มีใน ServBay ได้แก่:

• GD: ไลบรารีจัดการภาพ เช่น สร้าง แก้ไข หรือแปลงไฟล์ภาพหลากหลายรูปแบบ ติดตั้งและเปิดใช้งานโดยอัตโนมัติ
• IMAP: ไลบรารีจัดการอีเมล รองรับ IMAP, POP3 และ NNTP ติดตั้งและเปิดใช้งานโดยอัตโนมัติ
• Imagick: ส่วนขยาย PHP ของ ImageMagick สำหรับการประมวลผลภาพขั้นสูง ติดตั้งและเปิดใช้งานโดยอัตโนมัติ
• Memcache: ไลบรารีสำหรับเชื่อมต่อกับ Memcache ระบบแคชข้อมูลในหน่วยความจำ ติดตั้งและเปิดใช้งานโดยอัตโนมัติ
• Memcached: ไลบรารีสำหรับเชื่อมต่อกับ Memcached ระบบแคชในหน่วยความจำแบบกระจายประสิทธิภาพสูง ติดตั้งและเปิดใช้งานโดยอัตโนมัติ
• MySQL: ส่วนขยาย PHP สำหรับเชื่อมต่อและจัดการ MySQL (mysqli หรือ mysqlnd) ติดตั้งและเปิดใช้งานโดยอัตโนมัติ
• OpenLDAP: ส่วนขยาย PHP สำหรับเชื่อมต่อกับ LDAP Directory ติดตั้งและเปิดใช้งานโดยอัตโนมัติ
• PgSQL: ส่วนขยาย PHP สำหรับเชื่อมต่อและจัดการ PostgreSQL ติดตั้งและเปิดใช้งานโดยอัตโนมัติ
• Redis: ส่วนขยาย PHP สำหรับเชื่อมต่อกับ Redis ระบบจัดเก็บข้อมูลคีย์-แวลู ติดตั้งและเปิดใช้งานโดยอัตโนมัติ
• SQLite 3: ส่วนขยาย PHP สำหรับเชื่อมต่อและจัดการ SQLite ติดตั้งและเปิดใช้งานโดยอัตโนมัติ
• Sodium: ไลบรารีเข้ารหัสที่ทันสมัย ให้ระบบเข้ารหัสที่แข็งแกร่งมาก ติดตั้งและเปิดใช้งานโดยอัตโนมัติ
• cURL: ไลบรารีสำหรับร้องขอข้อมูลผ่านเครือข่าย รองรับหลายโปรโตคอล (HTTP, HTTPS, FTP ฯลฯ) ติดตั้งและเปิดใช้งานโดยอัตโนมัติ
• MongoDB: ส่วนขยาย PHP สำหรับเชื่อมต่อกับฐานข้อมูล MongoDB วิธีเปิดใช้งาน ดูที่ วิธีเปิดใช้งาน MongoDB ที่มากับ ServBay
• OPcache: โมดูลแคช bytecode สำหรับเร่งความเร็วการทำงานของ PHP วิธีเปิดใช้งาน ดูที่ วิธีเปิดใช้งาน OPcache ที่มากับ ServBay
• Phalcon: ส่วนขยาย PHP เฟรมเวิร์กประสิทธิภาพสูง ในรูปแบบ extension C วิธีเปิดใช้งาน ดูที่ วิธีเปิดใช้งาน Phalcon บน ServBay
• SCWS: ส่วนขยาย PHP สำหรับระบบตัดคำจีน วิธีเปิดใช้งาน ดูที่ วิธีเปิดใช้งาน SCWS ที่มากับ ServBay
• Swoole: ส่วนขยาย PHP สำหรับเฟรมเวิร์กสื่อสารเครือข่ายแบบอะซิงโครนัส/โครูทีน/ขนานประสิทธิภาพสูง วิธีเปิดใช้งาน ดูที่ วิธีเปิดใช้งาน Swoole ใน ServBay
• Xdebug: ส่วนขยายสำหรับ Debug และวิเคราะห์โค้ด PHP วิธีเปิดใช้งาน ดูที่ วิธีเปิดใช้งาน Xdebug บน ServBay

หากต้องการรายละเอียดและวิธีการใช้งานแต่ละโมดูล สามารถดูได้ที่ลิงก์เหล่านี้:

• GD
• IMAP
• Imagick
• Memcache
• Memcached
• MySQL
• OpenLDAP
• PgSQL
• Redis
• SQLite 3
• Sodium
• cURL
• MongoDB
• OPcache
• Phalcon
• SCWS
• Swoole
• Xdebug

วิธีตรวจสอบว่าโมดูลถูกเปิดใช้งานหรือไม่?

คุณสามารถสร้างไฟล์ info.php ในโฟลเดอร์ root ของเว็บไซต์คุณ แล้วใส่โค้ด <?php phpinfo(); ?> จากนั้นเข้าชมไฟล์นี้ผ่านเว็บเบราว์เซอร์ เพื่อดูรายละเอียด PHP เวอร์ชันที่ ServBay เปิดใช้งานอยู่ พร้อมกับรายชื่อและสถานะของโมดูลทั้งหมดที่ติดตั้งและเปิดใช้งาน

การตั้งค่า PHP (php.ini)

พฤติกรรมของ PHP สามารถกำหนดค่าได้ผ่านไฟล์ php.ini ไม่ว่าจะเป็นการปรับขนาดหน่วยความจำ ระดับการแสดงข้อผิดพลาด หรือขนาดไฟล์อัปโหลด ฯลฯ ServBay จะสร้างไฟล์ php.ini แยกต่างหากสำหรับแต่ละเวอร์ชัน PHP ที่ติดตั้งไว้

วิธีค้นหาตำแหน่งไฟล์ php.ini ของ PHP ที่ถูกตั้งเป็น Active ง่ายที่สุดคือ เปิดดูหน้า phpinfo() แล้วค้นหา "Loaded Configuration File" (ไฟล์คอนฟิกที่โหลดใช้งาน)

คุณสามารถเปิดและแก้ไขไฟล์ php.ini ของเวอร์ชันที่ใช้งานอยู่ได้อย่างรวดเร็วผ่าน GUI ของ ServBay ดังนี้:

1. เปิด GUI ของ ServBay
2. ไปที่เมนู แพ็กเกจ - PHP
3. ดูตรงเวอร์ชันที่ใช้งานอยู่ (แถบสีเขียว)
4. คลิกที่ไอคอนการตั้งค่า (เฟือง) ข้างเวอร์ชันนั้น แล้วเลือก "Edit php.ini"

หลังจากแก้ไข php.ini แล้ว โดยทั่วไปคุณควรรีสตาร์ท ServBay หรืออย่างน้อยรีสตาร์ทเว็บเซิร์ฟเวอร์ (เช่น Caddy หรือ Nginx) เพื่อให้ค่าที่เปลี่ยนแปลงมีผล

ตัวอย่างการใช้งานพื้นฐาน: รันสคริปต์ PHP แรกของคุณ

การรันสคริปต์ PHP บน ServBay นั้นง่ายมาก โดยทำตามขั้นตอนนี้เพื่อสร้างตัวอย่าง "Hello, World":

1. ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณได้ติดตั้งและสตาร์ท PHP อย่างน้อย 1 เวอร์ชันบน ServBay รวมทั้งเปิดใช้งานเว็บเซิร์ฟเวอร์ (Caddy หรือ Nginx)
2. เปิดโฟลเดอร์ root เว็บไซต์ของ ServBay โดยค่าเริ่มต้นคือ /Applications/ServBay/www
3. สร้างโฟลเดอร์ย่อยใหม่ เช่น php-demo ซึ่งเส้นทางเต็มจะเป็น `/Applications/ServBay/www/php-demo