คู่มือการตั้งค่า Pinggy รีเวิร์สพร็อกซี ใน ServBay
Pinggy คือเครื่องมือทะลุเครือข่ายภายในที่มีน้ำหนักเบาและใช้งานง่าย ช่วยให้คุณสามารถเผยแพร่บริการเว็บที่รันบนเครื่องของคุณไปยังอินเทอร์เน็ตได้อย่างปลอดภัยและรวดเร็ว ServBay ได้รวม Pinggy ไว้ในตัว ช่วยให้นักพัฒนาบน macOS สามารถสร้าง tunnel เปิดเผยเว็บไซต์ท้องถิ่นให้สาธารณะเข้าถึงได้ สะดวกในการสาธิตโค้ด ทดสอบ API หรือแชร์ผลงานพัฒนาแบบโลคัลกับผู้ร่วมงานจากภายนอก คำแนะนำนี้จะพาคุณตั้งค่าและเริ่มใช้ Pinggy ใน ServBay อย่างละเอียดทุกขั้นตอน
ภาพรวม
ServBay มีระบบสนับสนุน Pinggy ในตัว ทำให้การติดตั้งและจัดการบริการนั้นง่ายมาก คุณสามารถควบคุม Tunnel ของ Pinggy ได้โดยตรงผ่านส่วนอินเทอร์เฟซกราฟิก เลือกแม็ปเว็บไซต์ที่สร้างจาก ServBay ไปยัง URL สาธารณะ ช่วยให้สามารถเข้าถึงจากอินเทอร์เน็ตได้ทันที
ตัวอย่างการใช้งาน
- นำเสนอผลงานอย่างรวดเร็ว: โชว์เว็บไซต์หรือแอปที่พัฒนาบน macOS ของคุณให้ลูกค้าหรือเพื่อนร่วมงานชมได้ทันที
- ทดสอบ API และ Webhook: สร้าง public endpoint ชั่วคราวสำหรับบริการภายนอก (เช่น social login, message queue) ที่ต้องการ callback มาทางอินเทอร์เน็ต
- ดีบักระยะไกล: อำนวยความสะดวกให้ทีมสามารถเข้าถึงและดีบัก environment ท้องถิ่นของคุณจากที่อื่นได้
- ทดสอบบนมือถือ: อุปกรณ์โมบายสามารถเข้าถึง backend ที่รันบนเครื่องของคุณผ่าน public URL
ข้อกำหนดเบื้องต้น
- ติดตั้ง ServBay แล้ว: กรุณาตรวจสอบว่าบน macOS ของคุณได้ติดตั้งและรัน ServBay เวอร์ชันล่าสุดเรียบร้อยแล้ว
- มีบัญชี Pinggy: คุณต้องสร้างบัญชี Pinggy ก่อนไปที่ เว็บไซต์ Pinggy เพื่อสมัคร (มีแพ็กเกจทั้งฟรีและเสียเงิน)
- เว็บไซต์ท้องถิ่น: คุณต้องตั้งค่าและรัน local site อย่างน้อย 1 เว็บไซต์บน ServBay เช่น
servbay.demo
หรือkirby.test
ขั้นตอนการใช้งาน
1. ติดตั้งแพ็กเกจ Pinggy ใน ServBay
ถ้านี่เป็นครั้งแรกที่คุณใช้ Pinggy ใน ServBay จะต้องติดตั้งแพ็กเกจก่อน:
เปิดแอปพลิเคชัน ServBay
ในแถบเมนูด้านซ้าย เลือก แพ็กเกจ (Packages)
ค้นหาหรือดูในลิสต์จนพบ
Pinggy
คลิกปุ่มติดตั้งข้างชื่อ
Pinggy
เมื่อติดตั้งเสร็จแล้ว ทดสอบกดสวิตช์เริ่มทำงานทางขวาของ
Pinggy
ได้เลย ถ้าบริการเริ่มต้นผิดพลาดหรือแสดงสถานะผิดปกติ ยังถือว่าปกติ เพราะ Pinggy ยังไม่ได้รับการตั้งค่า เราจะดำเนินการในขั้นตอนถัดไป
2. รับ Pinggy Access token ของคุณ
Pinggy จะใช้ Access token สำหรับยืนยันตัวตนและเปิดใช้งาน tunnel
ไปที่ Pinggy Dashboard และเข้าสู่ระบบด้วยบัญชีของคุณ
หลังเข้าสู่ระบบจะเจอส่วน "Access token" ที่หน้าแรกของ dashboard เป็น token ส่วนตัวของคุณ
คัดลอก Access token นี้และเก็บไว้ให้ปลอดภัย เป็นอักขระชุดหนึ่ง
3. ตั้งค่า Pinggy บน ServBay
หลังจากได้ Access token กลับมาที่แอป ServBay เพื่อดำเนินการตั้งค่า:
ในเมนูด้านซ้าย เลือก Tunnel
ในลิสต์ Tunnel services คลิก Pinggy
Auth Token (โทเคนยืนยันตัวตน):
- วาง Access token ที่คัดลอกจาก Pinggy dashboard ลงในช่อง
Auth Token
- วาง Access token ที่คัดลอกจาก Pinggy dashboard ลงในช่อง
ตั้งค่า Tunnel (Local Domain และ External Domain): ServBay อนุญาตให้คุณสร้าง Tunnel สำหรับเว็บไซต์หลายโดเมนที่โฮสต์อยู่ใน ServBay ได้
- Local Domain (เว็บไซต์ท้องถิ่น):
- คลิกเมนูเลือก จากลิสต์เลือกเว็บไซต์ที่ต้องการเปิดให้สาธารณชนเห็นผ่าน Pinggy เช่น
thinkphp.test
หรือservbay.demo
- คลิกเมนูเลือก จากลิสต์เลือกเว็บไซต์ที่ต้องการเปิดให้สาธารณชนเห็นผ่าน Pinggy เช่น
- External Domain (โดเมนภายนอก):
- สำหรับผู้ใช้ Pinggy ฟรี: ปล่อยช่องนี้ว่างไว้ Pinggy จะสุ่มสร้าง URL สาธารณะให้อัตโนมัติ (เช่นลงท้ายด้วย
.a.free.pinggy.link
หรือ.pinggy.link
) โดย ServBay จะแสดง URL ดังกล่าวเมื่อ tunnel สร้างสมบูรณ์ - สำหรับผู้ใช้ Pinggy แบบเสียเงิน: ถ้าบัญชีของคุณรองรับ custom domain หรือ reserved domain สามารถใส่ชื่อโดเมนเองที่ต้องการในช่องนี้
- สำหรับผู้ใช้ Pinggy ฟรี: ปล่อยช่องนี้ว่างไว้ Pinggy จะสุ่มสร้าง URL สาธารณะให้อัตโนมัติ (เช่นลงท้ายด้วย
- Local Domain (เว็บไซต์ท้องถิ่น):
เพิ่ม tunnel เพิ่มเติม:
- หากต้องการสร้าง tunnel ให้เว็บไซต์อื่น ให้คลิกปุ่ม
+
ที่ด้านขวาของ tunnel เดิม แล้วกำหนดค่าเหมือนข้อ 4 ซ้ำอีกครั้ง
- หากต้องการสร้าง tunnel ให้เว็บไซต์อื่น ให้คลิกปุ่ม
บันทึกการตั้งค่า:
- เมื่อกำหนดค่า tunnel ทั้งหมดเสร็จ ให้คลิก Save (บันทึก) ด้านขวาล่างของหน้าจอ
4. เริ่มต้นและตรวจสอบการทำงานของ Pinggy
- หลังบันทึกการตั้งค่า ServBay จะพยายามเปิดใช้งาน Pinggy บนพื้นฐานคอนฟิกของคุณ
- ให้สังเกตไฟแสดงสถานะข้างชื่อ
Pinggy
ในลิสต์ Tunnel ถ้าคอนฟิกถูกต้องและ Pinggy เชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ได้สำเร็จ ไฟจะแสดงเป็นสีเขียว หมายถึงบริการพร้อมใช้งาน - สำหรับ tunnel ที่เริ่มต้นได้ External Domain (ถ้าทิ้งว่างไว้ตอนตั้งค่า) ตอนนี้จะแสดง URL สาธารณะที่ Pinggy กำหนดให้ เช่น
https://random-string.a.free.pinggy.link
- ตรวจสอบการเข้าถึง:
- คลิกไอคอนคัดลอกถัดจาก external domain เพื่อ copy URL สาธารณะ
- หรือกดไอคอนเปิดเว็บ (เช่นสัญลักษณ์เข็มทิศหรือโลก) เพื่อเปิด URL ในเบราว์เซอร์ของคุณโดยตรง
- หากตั้งค่าถูกต้อง คุณจะสามารถเข้าชมเว็บไซต์ท้องถิ่นของคุณผ่าน URL ของ Pinggy ได้ทันที
5. จัดการ Pinggy Tunnel
ในหน้าตั้งค่าของ Pinggy บน ServBay คุณสามารถจัดการ tunnel ได้สะดวกดังนี้:
- คัดลอก external domain: คลิกเพื่อ copy URL สาธารณะเพื่อแชร์ให้ผู้อื่น
- เปิดในเบราว์เซอร์: คลิกไอคอนเบราว์เซอร์เพื่อทดสอบเข้าชมแบบด่วน
- เพิ่ม tunnel ใหม่: คลิกที่ปุ่ม
+
เพื่อกำหนด tunnel ใหม่ - ลบ tunnel: คลิกปุ่ม
-
เพื่อลบ tunnel ที่ไม่ต้องการใช้แล้ว - สต็อป/สตาร์ทบริการ: สั่งเปิดหรือหยุด Pinggy Tunnel แบบรวม โดยสวิตช์ตรงแถบ
Pinggy
หมายเหตุสำคัญ
- ข้อจำกัดของ Pinggy ฟรี: external domain สำหรับบัญชีฟรีจะเปลี่ยนไปทุกครั้งที่รีสตาร์ทบริการ หรือ tunnel ฟรียังมีข้อจำกัดด้านจำนวนการเชื่อมต่อ แบนด์วิดท์ และใช้งานสูงสุดต่อวัน ต้องการใช้งานเต็มที่, domain คงที่, หรือคุณสมบัติขั้นสูงให้พิจารณาอัปเกรดเป็นเวอร์ชันเสียเงิน
- บริการท้องถิ่นต้องพร้อม: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเว็บไซต์ท้องถิ่นที่เลือกใน
Local Domain
ตั้งค่าและรันอย่างถูกต้องใน ServBay เช่น PHP เวอร์ชัน, เว็บเซิร์ฟเวอร์ Caddy/Nginx ต้องเริ่มต้นและคอนฟิกถูกต้อง Pinggy มีหน้าที่ส่งผ่านทราฟฟิกให้เฉย ๆ - ไฟร์วอลล์และเครือข่าย: มั่นใจว่า macOS หรือซอฟต์แวร์ป้องกันอื่น ๆ ไม่บล็อกการเชื่อมต่อของ ServBay หรือ Pinggy client
- HTTPS ความปลอดภัย: Pinggy รองรับ HTTPS ใน tunnel ที่สร้างขึ้น ช่วยเข้ารหัสข้อมูลเพื่อความปลอดภัยของเว็บยุคใหม่
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
- ถาม: Pinggy รันไม่สำเร็จ ไฟสถานะไม่เขียว ทำอย่างไร?
- ตอบ: ให้ตรวจสอบความถูกต้องของ Pinggy Access token ที่ใส่ไว้ก่อน, ตรวจสอบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต จากนั้นลองกดดู log ของ Pinggy (ไอคอน log ด้านขวา) เพื่อค้นหาข้อผิดพลาดแบบละเอียด
- ถาม: เป็นผู้ใช้ Pinggy ฟรี ทำไม field
External Domain
ต้องปล่อยว่าง?- ตอบ: เป็นรูปแบบการให้บริการของ Pinggy ฟรี ไม่ต้องระบุโดเมนเอง หลังเชื่อมต่อสำเร็จ ServBay จะดึง URL ชั่วคราวที่ได้รับมาแสดงให้โดยอัตโนมัติ
- ถาม: Pinggy ต่างจาก Ngrok อย่างไร? ควรเลือกอะไรดี?
- ตอบ: ทั้งสองเป็นเครื่องมือสำหรับ tunnel network ภายในออกสู่ภายนอก มีข้อแตกต่างเรื่องฟีเจอร์ ข้อจำกัดของแพ็กเกจฟรี ราคา การตั้งค่าซับซ้อน และเซิร์ฟเวอร์ที่รองรับ Pinggy มีจุดเด่นที่ความเบาและใช้งานง่าย คุณเลือกใช้ตามความต้องการ เช่น รองรับโปรโตคอลพิเศษ ต้องการ domain เฉพาะ หรือคำนึงถึงงบประมาณ ServBay รองรับหลายโซลูชันเพื่อความยืดหยุ่น
สรุป
ฟีเจอร์ Pinggy ที่รวมมากับ ServBay เป็นทางเลือกที่แสนสะดวกสำหรับนักพัฒนาเว็บบน macOS หากต้องการแชร์เว็บไซต์ท้องถิ่นอย่างรวดเร็ว ปลอดภัย และจัดการได้เองเพียงไม่กี่ขั้นตอน คุณก็จะเปิดสาธารณะให้เข้าถึง local development environment ได้ทันที เหมาะสำหรับ demo, ทดสอบ และร่วมงานกับทีม อย่าลืมเลือกคอนฟิกที่ตรงกับบัญชี Pinggy ของคุณและตรวจสอบให้ local site พร้อมใช้งานตลอด เพื่อให้ Pinggy ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ