วิธีถอนการติดตั้ง ServBay อย่างหมดจด
ServBay ถูกออกแบบมาเพื่อเป็นสภาพแวดล้อมพัฒนาเว็บบนเครื่องที่จัดการและดูแลได้ง่าย หากคุณต้องการลบ ServBay ออกจาก macOS ขั้นตอนการถอนการติดตั้งก็ไม่ซับซ้อน คู่มือนี้จะให้รายละเอียดทุกขั้นตอนเพื่อให้คุณถอนการติดตั้ง ServBay ได้อย่างสมบูรณ์พร้อมทำความสะอาดไฟล์ที่เกี่ยวข้อง
⚠️ หมายเหตุสำคัญ ⚠️
ก่อนทำการถอนการติดตั้งใด ๆ กรุณาสำรองข้อมูลสำคัญของคุณทุกครั้ง ซึ่งรวมถึงไฟล์โปรเจกต์เว็บไซต์ของคุณ (โดยค่าเริ่มต้นอยู่ใน /Applications/ServBay/www
), ข้อมูลฐานข้อมูลทั้งหมด (MySQL, PostgreSQL, MongoDB ฯลฯ ซึ่งจะอยู่ใน /Applications/ServBay/db
), ไฟล์คอนฟิกของ ServBay และใบรับรอง SSL ที่คุณจัดการผ่าน ServBay การถอนการติดตั้งจะลบไดเรกทอรีการติดตั้ง ServBay พร้อมเนื้อหาทั้งหมด ข้อมูลที่ไม่ได้สำรองจะสูญหาย
ขั้นตอนการถอนการติดตั้งโดยละเอียด
กรุณาทำตามขั้นตอนเหล่านี้เพื่อให้แน่ใจว่าคุณได้ลบ ServBay และองค์ประกอบที่เกี่ยวข้องออกอย่างครบถ้วน
ขั้นตอนที่ 1: ปิดแอปพลิเคชัน ServBay
ก่อนเริ่มการถอนการติดตั้ง กรุณาตรวจสอบให้แน่ใจว่าแอปพลิเคชัน ServBay ได้ปิดอย่างสมบูรณ์แล้ว คุณสามารถคลิกขวาที่ไอคอน ServBay บน Dock แล้วเลือก "ออกจากโปรแกรม" หรือเปิดเมนูในแอปแล้วเลือก “ServBay” > “ออกจาก ServBay”
ขั้นตอนที่ 2: ลบไฟล์แอปพลิเคชัน ServBay
ขั้นแรกคือการลบแอปพลิเคชัน ServBay ออกจากระบบของคุณ:
- เปิด Finder
- ที่แถบด้านข้าง Finder คลิกที่ แอปพลิเคชัน
- หา
ServBay.app
ในรายการแอปพลิเคชัน - ลากไฟล์
ServBay.app
ไปที่ไอคอน ถังขยะ ที่มุมขวาสุดของ Dock - คลิกขวาที่ไอคอนถังขยะแล้วเลือก “ล้างถังขยะ” เพื่อทำการลบไฟล์แอปพลิเคชันให้หมดจด
ขั้นตอนที่ 3: ลบไดเรกทอรีติดตั้ง ServBay
ไฟล์หลัก แพ็กเกจต่าง ๆ ไฟล์เว็บไซต์ และข้อมูลฐานข้อมูลของ ServBay จะถูกเก็บไว้ที่ /Applications/ServBay
การลบไดเรกทอรีนี้จะทำให้ข้อมูลการทำงานและข้อมูลสำหรับนักพัฒนาทั้งหมดถูกลบออก
🛑 เตือนอีกครั้ง 🛑
ก่อนทำขั้นตอนนี้ กรุณาตรวจสอบอีกครั้งว่าได้สำรองไฟล์เว็บไซต์ใน /Applications/ServBay/www
, ฐานข้อมูลใน /Applications/ServBay/db
, ไฟล์คอนฟิกของ ServBay และใบรับรอง SSL ไว้ทั้งหมดแล้วตามข้อแนะนำในต้นคู่มือ การดำเนินการนี้ไม่สามารถย้อนกลับได้ ข้อมูลที่ถูกลบจะไม่สามารถกู้คืนได้
เปิดแอป Terminal คุณสามารถค้นหาได้ด้วย Spotlight (Command + Space แล้วพิมพ์ “Terminal”) หรือที่ “แอปพลิเคชัน” > “ยูทิลิตี้” > “Terminal” ใน Finder
ที่หน้าต่าง Terminal ให้รันคำสั่งนี้เพื่อทำการลบไดเรกทอรีติดตั้ง ServBay และเนื้อหาทั้งหมด:
bashsudo rm -rf /Applications/ServBay
1- คำสั่ง
sudo
ใช้สำหรับรันคำสั่งในฐานะผู้ดูแลระบบ เพราะโดยปกติ/Applications
ต้องการสิทธิ์พิเศษในการแก้ไข ขณะรันคำสั่ง ระบบจะขอรหัสผ่านผู้ใช้ของคุณ rm
คือคำสั่งลบไฟล์หรือไดเรกทอรี- ตัวเลือก
-r
(recursive) หมายถึงลบแบบเรียงซ้อน จะลบไดเรกทอรีพร้อมไฟล์ย่อยและโฟลเดอร์ทั้งหมด - ตัวเลือก
-f
(force) หมายถึงลบแบบบังคับโดยไม่ถามยืนยัน กรุณาใช้-f
อย่างระมัดระวัง
หลังจากรันคำสั่งนี้ ไดเรกทอรี
/Applications/ServBay
และเนื้อหาทั้งหมด (รวมเว็บไซต์ ฐานข้อมูล และคอนฟิกของ ServBay) จะถูกลบออก- คำสั่ง
ขั้นตอนที่ 4: ถอนการติดตั้ง ServBay Helper
ServBay Helper เป็นเครื่องมือเสริมที่มีสิทธิพิเศษ ใช้สำหรับปฏิบัติการที่ต้องใช้สิทธิ์ผู้ดูแล (เช่น แก้ไข hosts หรือเริ่ม/หยุดบริการระบบ) เพื่อให้ลบ ServBay ได้หมดจด ควรถอนการติดตั้ง Helper นี้ด้วย
รันคำสั่งต่อไปนี้ใน Terminal:
bash
sudo launchctl unload /Library/LaunchDaemons/Dev.ServBay.macOS.ServBay.Helper.plist
sudo rm /Library/LaunchDaemons/Dev.ServBay.macOS.ServBay.Helper.plist
sudo rm /Library/PrivilegedHelperTools/Dev.ServBay.macOS.ServBay.Helper
1
2
3
2
3
- คำสั่งแรก
launchctl unload
จะหยุดและถอนการตั้งค่าตัวแทนเริ่มระบบของ ServBay Helper เพื่อไม่ให้โปรแกรมเริ่มทำงานอัตโนมัติเมื่อเปิดเครื่อง - คำสั่งที่สองจะลบไฟล์
plist
ที่เซ็ตการโหลด Helper ในระบบ - คำสั่งที่สามจะลบไฟล์โปรแกรมหลักของ ServBay Helper
การรันคำสั่งเหล่านี้ต้องใช้สิทธิ์ผู้ดูแลระบบ โดยระบบจะขอรหัสผ่านของคุณ
ขั้นตอนที่ 5: ทำความสะอาดตัวแปรสภาพแวดล้อม
เปิดไฟล์ ~/.zshrc
และ ~/.bash_profile
หาโค้ดต่อไปนี้แล้วลบทิ้ง
bash
# BEGIN ServBay Environment Block
# ...
# END ServBay Environment Block
1
2
3
2
3
สรุป
เมื่อดำเนินการตามขั้นตอนข้างต้นแล้ว คุณจะถอนการติดตั้ง ServBay ออกจาก macOS ได้อย่างหมดจด ไม่ว่าจะเป็นแอปพลิเคชัน ไดเรกทอรีติดตั้ง หรือบริการ Helper ทั้งหมด ขอย้ำว่า สำรองข้อมูลคือขั้นตอนสำคัญที่สุดก่อนถอนการติดตั้ง กรุณาตรวจสอบว่าคุณได้สำรองไฟล์เว็บไซต์ ฐานข้อมูล และข้อมูลสำคัญอื่น ๆ ก่อนจะลบไดเรกทอรี /Applications/ServBay