การติดตั้งและตั้งค่า Joomla CMS ในสภาพแวดล้อม ServBay บน macOS
ภาพรวม
คู่มือนี้จะอธิบายอย่างละเอียดถึงวิธีการติดตั้งและตั้งค่า Joomla ระบบจัดการเนื้อหาเว็บไซต์ (CMS) ในสภาพแวดล้อมการพัฒนาเว็บ ServBay ที่ทรงพลัง ServBay มอบสภาพแวดล้อมแบบครบวงจรและใช้งานง่ายสำหรับเทคโนโลยี PHP, MySQL ฯลฯ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการสร้างและทดสอบเว็บไซต์ Joomla สามารถจัดการเวอร์ชัน PHP ฐานข้อมูล และเว็บเซิร์ฟเวอร์ต่างๆ (Caddy หรือ Nginx) ได้อย่างยืดหยุ่น เพิ่มประสิทธิภาพสูงสุดสำหรับนักพัฒนา Joomla
Joomla คืออะไร?
Joomla คือระบบจัดการเนื้อหา (CMS) แบบโอเพ่นซอร์สที่ได้รับความนิยม เขียนขึ้นด้วย PHP และใช้ฐานข้อมูล MySQL เหมาะสำหรับสร้างเว็บไซต์หลากหลายประเภท ทั้งบล็อกส่วนตัว เว็บไซต์องค์กรขนาดเล็กไปจนถึงเว็บพอร์ทัลขนาดใหญ่และอีคอมเมิร์ซ โดดเด่นด้วยฟีเจอร์ที่ยืดหยุ่น ขยายได้ มีชุมชนผู้ใช้งานขนาดใหญ่ และปลั๊กอินเทมเพลตจำนวนมาก ช่วยให้การพัฒนาเว็บไซต์เป็นเรื่องง่ายและรวดเร็ว
กรณีการใช้งาน
- สร้างและทดสอบเว็บไซต์ Joomla ในเครื่องด้วย ServBay สำหรับการพัฒนา ทดสอบ หรือดีบัก
- ศึกษาและทดลองระบบหรือการพัฒนา Plugin/Extension ของ Joomla
- ทำงานกับโปรเจกต์ Joomla แบบออฟไลน์ไม่ต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
- เตรียมพร้อมกำหนดค่าก่อนนำ Joomla ไปใช้จริงใน Production
ข้อกำหนดเบื้องต้น
ก่อนจะเริ่มติดตั้ง Joomla โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณมีสิ่งเหล่านี้พร้อม:
- ติดตั้งและเปิดใช้งาน ServBay แล้ว: ต้องติดตั้งและเริ่มต้นโปรแกรม ServBay บน macOS ให้เรียบร้อย โดย ServBay จะเตรียมสภาพแวดล้อม PHP, เว็บเซิร์ฟเวอร์ (Caddy หรือ Nginx) และฐานข้อมูล (MySQL หรือ MariaDB) ให้ครบถ้วน
- มีพื้นฐานการใช้คำสั่ง Command Line: ระหว่างติดตั้งจะมีการใช้ Terminal เพื่อรันคำสั่งพื้นฐาน
- เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต: จำเป็นสำหรับดาวน์โหลดแพ็กเกจติดตั้ง Joomla
ขั้นตอนการติดตั้ง Joomla
ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้เพื่อเตรียม Joomla ใน ServBay ให้พร้อมใช้งาน
ขั้นตอนที่ 1: ดาวน์โหลด Joomla
ก่อนอื่น ให้ไปที่โฟลเดอร์รากเว็บไซต์มาตรฐานของ ServBay คือ /Applications/ServBay/www
เพื่อใช้เป็นที่เก็บโปรเจกต์เว็บในเครื่อง สร้างโฟลเดอร์โปรเจกต์ใหม่สำหรับ Joomla แล้วดาวน์โหลดแพ็กเกจติดตั้ง Joomla
bash
# เข้าสู่โฟลเดอร์เว็บรากของ ServBay
cd /Applications/ServBay/www
# สร้างโฟลเดอร์โปรเจกต์ใหม่ ตัวอย่างเช่น servbay-joomla-app
mkdir servbay-joomla-app
# เข้าไปในโฟลเดอร์โปรเจกต์ที่สร้างไว้
cd servbay-joomla-app
# ดาวน์โหลดไฟล์ติดตั้ง Joomla
# หมายเหตุ: ลิงก์ด้านล่างอาจชี้ไปที่ Joomla 3 รุ่นล่าสุด
# แนะนำให้เข้าเว็บไซต์ทางการ (https://downloads.joomla.org/) เพื่อตรวจสอบและคัดลอกลิงก์รุ่นเสถียรปัจจุบัน
curl -L https://downloads.joomla.org/cms/joomla3/latest-stable -o joomla.zip
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
หมายเหตุ: curl -L https://downloads.joomla.org/cms/joomla3/latest-stable -o joomla.zip
อาจจะลิงก์ไปที่ Joomla 3 ตรวจสอบเว็บไซต์ทางการ Joomla Download Page เพื่อให้แน่ใจว่าคุณดาวน์โหลดเวอร์ชันล่าสุดอยู่เสมอ ขอแนะนำให้เปลี่ยนลิงก์ในคำสั่งข้างต้นให้ตรงกับเวอร์ชันล่าสุดสำหรับฟีเจอร์และความปลอดภัยที่อัปเดต
ขั้นตอนที่ 2: แตกไฟล์ Joomla
นำไฟล์ Joomla ที่ดาวน์โหลดมาแตกไฟล์ในโฟลเดอร์ servbay-joomla-app
และลบไฟล์ zip ทิ้ง
bash
# แตกไฟล์ติดตั้ง Joomla
unzip joomla.zip
# ลบไฟล์ zip ที่ไม่จำเป็นแล้ว
rm joomla.zip
1
2
3
4
5
2
3
4
5
หลังจากแตกไฟล์เสร็จเรียบร้อย โฟลเดอร์ servbay-joomla-app
จะประกอบด้วยไฟล์ทั้งหมดสำหรับติดตั้ง Joomla
ขั้นตอนที่ 3: สร้างฐานข้อมูลและผู้ใช้
Joomla ต้องใช้ฐานข้อมูลเพื่อเก็บเนื้อหาและข้อมูลการตั้งค่าทั้งหมด เราจะใช้ phpMyAdmin ที่มาพร้อม ServBay สำหรับสร้างฐานข้อมูลและผู้ใช้
เข้า ServBay Control Panel
เปิดเบราว์เซอร์ และเข้าไปที่แผงควบคุมของ ServBay ที่
https://servbay.host/
เพื่อง่ายต่อการเข้าถึง phpMyAdmin, phpinfo ฯลฯเข้าสู่ phpMyAdmin
ในหน้า Control Panel ของ ServBay คลิกลิงก์ “phpMyAdmin” เพื่อไปยังหน้าจัดการฐานข้อมูล
สร้างผู้ใช้และฐานข้อมูลใหม่
เพื่อความปลอดภัย ควรสร้างผู้ใช้ใหม่สำหรับแต่ละแอปพลิเคชัน
ไปยังหัวข้อการจัดการผู้ใช้
บนแถบเมนูด้านบนของ phpMyAdmin คลิก “บัญชีผู้ใช้”
เพิ่มผู้ใช้ใหม่
คลิก “เพิ่มบัญชีผู้ใช้” กรอกข้อมูลดังนี้:
- ชื่อผู้ใช้: ระบุชื่อผู้ใช้ฐานข้อมูล เช่น
servbay_joomla_user
- โฮสต์: เลือก
localhost
เพื่อให้ผู้ใช้นี้เชื่อมต่อได้เฉพาะจากเครื่องท้องถิ่น - รหัสผ่าน: กรอกรหัสผ่านที่แข็งแกร่ง และจดหรือเก็บรักษาไว้ให้ดี ตัวอย่างเช่น
password123
(โปรดเปลี่ยนเป็นรหัสที่ปลอดภัยยิ่งขึ้นในการใช้งานจริง) - ยืนยันรหัสผ่าน: พิมพ์รหัสผ่านอีกครั้ง
- สร้างฐานข้อมูลที่มีชื่อเดียวกับผู้ใช้: ติ๊กเลือกช่องนี้ เพื่อให้ระบบสร้างฐานข้อมูลอัตโนมัติชื่อเดียวกับผู้ใช้ พร้อมสิทธิ์เต็มที่กับฐานข้อมูลดังกล่าว
- สิทธิ์ใช้งานแบบ Global: ไม่ต้องเลือก “Grant all privileges” (มอบสิทธิ์ทั้งหมด) ให้สิทธิ์เฉพาะฐานข้อมูลนั้นเท่านั้น
- ชื่อผู้ใช้: ระบุชื่อผู้ใช้ฐานข้อมูล เช่น
สร้างผู้ใช้และฐานข้อมูล
ตรวจสอบข้อมูลแล้วกด “ดำเนินการ” เพื่อสร้างผู้ใช้และฐานข้อมูล
ขั้นตอนที่ 4: ตั้งค่าเว็บเซิร์ฟเวอร์ (เพิ่มเว็บไซต์)
ต่อไปคือการตั้งค่าให้ง่ายต่อการเข้าถึงไฟล์ Joomla ด้วยชื่อโดเมนบนเครื่อง ผ่านฟีเจอร์ “เว็บไซต์” ใน ServBay
เปิดแอป ServBay
เปิดหน้าต่างโปรแกรม ServBay หรือสลับกลับไปที่หน้าหลัก
ไปที่เมนูจัดการเว็บไซต์
คลิกแท็บ “เว็บไซต์” ที่แถบเมนูด้านซ้าย
เพิ่มเว็บไซต์ใหม่
คลิกปุ่ม “เพิ่ม” มุมขวาบนเพื่อสร้างเว็บใหม่
- ชื่อ (Name): ตั้งชื่อระบุไซต์ เช่น
My ServBay Joomla Site
- โดเมน (Domain): ระบุชื่อโดเมนเพื่อเข้าถึงไซต์ในเบราว์เซอร์ เช่น
servbay-joomla.local
(ServBay จะตั้งค่า DNS ภายในเครื่องให้อัตโนมัติ) - ประเภทไซต์ (Site Type): เลือก
PHP
- เวอร์ชัน PHP (PHP Version): เลือกเวอร์ชัน PHP ที่เหมาะสม (ตรวจสอบ Compatibility กับ Joomla ที่ดาวน์โหลดไว้ด้วย)
- โฟลเดอร์รากเว็บไซต์ (Site Root): คลิกไอคอนโฟลเดอร์ แล้วเลือก
/Applications/ServBay/www/servbay-joomla-app
ที่คุณสร้างไว้
- ชื่อ (Name): ตั้งชื่อระบุไซต์ เช่น
บันทึกการตั้งค่า
กรอกข้อมูลครบถ้วนแล้วคลิก “บันทึก” ระบบจะนำค่าเข้าใช้งาน อาจใช้เวลาสักครู่ในการรีสตาร์ทเซอร์วิสที่เกี่ยวข้อง (เช่น Caddy หรือ Nginx)
ขั้นตอนที่ 5: รันตัวติดตั้ง Joomla
หลังจากทุกอย่างพร้อม คุณสามารถเริ่มติดตั้ง Joomla ผ่านเว็บเบราว์เซอร์ได้แล้ว
เข้าเพจสำหรับติดตั้ง
เปิด Browser แล้วไปที่โดเมนที่ได้ตั้งค่าไว้ เช่น
https://servbay-joomla.local/
ServBay จะชี้ไปที่โฟลเดอร์เว็บไซต์โดยอัตโนมัติ Joomla จะตรวจจับว่าเป็นการเข้าใช้งานครั้งแรก และเปลี่ยนเส้นทางไปหน้าตัวช่วยติดตั้ง (มักอยู่ที่/installation/index.php
) หากไม่เปลี่ยนให้อัตโนมัติ ให้เข้าตรงที่https://servbay-joomla.local/installation/index.php
ดำเนินการตาม Wizard ติดตั้ง
จะพบหน้าติดตั้งแบบกราฟิกของ Joomla ให้ทำตามขั้นตอน:
- ตั้งค่าพื้นฐาน (Configuration): กรอกข้อมูลเว็บไซต์ เช่น ชื่อเว็บไซต์ คำอธิบาย บัญชีผู้ดูแล (ชื่อผู้ใช้-รหัสผ่าน-อีเมลฯ) แนะนำให้ใช้บัญชีที่รหัสผ่านปลอดภัย
- ฐานข้อมูล (Database): ตอนนี้ ให้ใส่ข้อมูลฐานข้อมูลที่สร้างขึ้นในขั้นตอนที่ 3:
- ชนิดฐานข้อมูล (Database Type): เลือก
MySQLi
- โฮสต์ (Host Name): กรอก
localhost
- ชื่อผู้ใช้ (Username): กรอกชื่อผู้ใช้ที่สร้าง เช่น
servbay_joomla_user
- รหัสผ่าน (Password): รหัสผ่านที่สร้าง เช่น
password123
- ชื่อฐานข้อมูล (Database Name): ชื่อฐานข้อมูล เช่น
servbay_joomla_user
- คำนำหน้าตาราง (Table Prefix): ใช้ค่าที่ Joomla สร้างให้หรือกำหนดเอง (เช่น
jos_
) - การจัดการฐานข้อมูลเก่า (Action on Old Database): สำหรับการติดตั้งใหม่ เลือก “สำรองข้อมูล” หรือ “ลบ” ก็ได้ หากฐานข้อมูลว่างจะไม่มีผลอะไร
- ชนิดฐานข้อมูล (Database Type): เลือก
- สรุปภาพรวม (Finalisation): ตรวจสอบข้อมูลอีกครั้ง Joomla จะตรวจสอบสภาพแวดล้อม ServBay ถ้าผ่านทุกจุด ให้คลิก “ติดตั้ง” เพื่อลงระบบ
เสร็จสิ้นการติดตั้ง และลบโฟลเดอร์ installation
รอจนติดตั้งเสร็จ Joomla จะแจ้งเตือนว่าติดตั้งเรียบร้อย ขั้นตอนสำคัญคือการลบโฟลเดอร์
installation
เพื่อความปลอดภัย (กันใครมารันตัวติดตั้งซ้ำ) โดยปกติจะมีปุ่มลบให้คลิกบนหน้าเว็บนั้น หรือจะลบด้วย Terminal ก็ได้bash# เปลี่ยน Directory เป็นโฟลเดอร์โปรเจกต์ Joomla cd /Applications/ServBay/www/servbay-joomla-app # ลบโฟลเดอร์ installation rm -rf installation
1
2
3
4
5เมื่อลบแล้วเว็บไซต์ Joomla ของคุณก็พร้อมใช้งาน สามารถเข้า Frontend หรือ Backend ได้ตามต้องการ
ขั้นตอนที่ 6: สำรวจแผงหลังบ้าน Joomla
เข้าไปที่ https://servbay-joomla.local/administrator
แล้วล็อกอินด้วยบัญชีผู้ดูแลที่ตั้งไว้ตอนติดตั้ง จะสามารถตั้งค่า ติดตั้งส่วนขยาย เทมเพลต จัดการเนื้อหา ฯลฯ ได้จากที่นี่
เริ่มต้นสร้างเว็บไซต์ด้วย Joomla (โดยสังเขป)
เมื่อ Joomla ติดตั้งเสร็จ สามารถเริ่มสร้างเว็บไซต์ได้ทันที ตัวอย่างการใช้งานพื้นฐาน:
- สร้างบทความและหมวดหมู่: จัดการเนื้อหาได้ที่เมนู “เนื้อหา”
- จัดการเมนูนำทาง: สร้างและแก้ไขเมนูนำทางได้ที่ “เมนู”
- ตั้งค่ามอดูล: เพิ่มหรือลบมอดูลที่แสดงข้างหน้าเว็บไซต์ได้ที่ “ส่วนขยาย” -> “มอดูล”
- เลือกและปรับแต่งธีม: เปลี่ยนธีมเว็บไซต์ รวมถึงปรับแต่งสไตล์ได้ที่ “ส่วนขยาย” -> “แม่แบบ”
- ลงส่วนขยายเพิ่มความสามารถ: ติดตั้งและจัดการส่วนขยายใหม่ เช่น Plugins, Components, Modules ได้ที่ “ส่วนขยาย” -> “จัดการ”
ข้อควรระวัง
- ความปลอดภัย: เลือกรหัสผ่านที่แข็งแกร่งเสมอทั้งสำหรับผู้ดูแล Joomla และผู้ใช้ฐานข้อมูล และอย่าลืมลบโฟลเดอร์
installation
ทันทีที่ติดตั้งเสร็จ - ความเข้ากันได้ของ PHP: เวอร์ชัน PHP ที่เลือกใน ServBay ต้องตรงกับที่ Joomla รุ่นนั้นๆ รองรับ ตรวจสอบที่เอกสารทางการ Joomla
- ข้อมูลการเชื่อมต่อฐานข้อมูล: ตรวจสอบให้แน่ใจว่ากรอก Hostname (
localhost
), ชื่อผู้ใช้, รหัสผ่าน และชื่อฐานข้อมูลถูกต้องตอนติดตั้ง - อัปเดต ServBay: ควรอัปเดต ServBay เป็นรุ่นล่าสุดเสมอ เพื่อความปลอดภัยและฟีเจอร์ใหม่ๆ
- สำรองข้อมูล: ServBay มีฟีเจอร์สำรองข้อมูลอัตโนมัติ/ด้วยตนเอง แนะนำให้ Backup ข้อมูลเว็บไซต์ ฐานข้อมูล SSL และการตั้งค่าสม่ำเสมอ โดยเลือกเมนูที่เกี่ยวข้องในแอป ServBay
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
ถาม: เข้าโดเมนในเครื่องแล้วขึ้น “ไม่พบเว็บไซต์” หรือ 404 ต้องทำอย่างไร?
ตอบ: ตรวจสอบตามนี้- ตรวจสอบว่า ServBay ทำงานอยู่
- ที่เมนู “เว็บไซต์” ของ ServBay ให้แน่ใจว่ามีการเปิดใช้งานเว็บไซต์ Joomla
- เส้นทางโฟลเดอร์รากเว็บไซต์ถูกต้องหรือไม่ (
/Applications/ServBay/www/servbay-joomla-app
) - โดเมนที่เข้า (
servbay-joomla.local
) ต้องตรงกับที่ตั้งค่าไว้ใน ServBay
ถาม: ขึ้นข้อผิดพลาดเชื่อมต่อฐานข้อมูลระหว่างติดตั้ง Joomla?
ตอบ: โดยมากเกิดจากข้อมูลเชื่อมต่อผิด ตรวจสอบดังนี้- Hostname ในฟอร์มต้องเป็น
localhost
- ชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านฐานข้อมูล (เช่น
servbay_joomla_user
,password123
) ตรงกับที่สร้างไว้หรือไม่ - ชื่อฐานข้อมูลถูกต้องหรือไม่ (
servbay_joomla_user
) - บริการฐานข้อมูล (MySQL/MariaDB) ใน ServBay ทำงานปกติหรือไม่
- Hostname ในฟอร์มต้องเป็น
ถาม: ลืมรหัสผ่าน root ของ MySQL ใน ServBay ต้องทำอย่างไร?
ตอบ: ServBay มีฟีเจอร์รีเซ็ตรหัสผ่าน root สามารถไปที่เมนูที่เกี่ยวข้องในแอปเพื่อรีเซ็ตได้อย่างปลอดภัยถาม: ติดตั้งเสร็จแต่เว็บไซต์แสดง Error หรือหน้าเว็บขาว?
ตอบ: ตรวจสอบว่าลบโฟลเดอร์installation
แล้วหรือไม่ ตรวจสอบไฟล์ log ของ Joomla หรือ PHP (ตั้งค่า error_reporting, display_errors ใน ServBay) ให้แน่ใจว่าใช้ PHP เวอร์ชันที่ตรงกับที่ Joomla รุ่นนั้นรองรับ
สรุป
ด้วย ServBay การติดตั้งและตั้งค่า Joomla CMS บน macOS เป็นเรื่องง่ายและรวดเร็ว ServBay เตรียมสภาพแวดล้อมที่พร้อมใช้ ทั้งเว็บเซิร์ฟเวอร์ ฐานข้อมูล PHP ไม่ต้องตั้งค่าเองให้ยุ่งยาก เพียงทำตามคู่มือนี้คุณก็จะมีเว็บไซต์ Joomla สำหรับพัฒนาในเครื่องได้อย่างมืออาชีพ อย่าลืมอัปเดตเวอร์ชันของ ServBay และ Joomla ให้ทันสมัย และปฏิบัติตามแนวทางความปลอดภัยทุกครั้ง